10 ที่เที่ยวสุดโรแมนติก เติมความหวาน กันได้ทั้งปี
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ชอบสถานที่เที่ยวแบบโรแมนติก ที่สามารถเดินชมวิวทิวทัศน์ไปได้เรื่อยๆโดยไม่รีบเร่ง
ท่ามกลางธรรมชาติที่สดใส และสถาปัตยกรรมที่งดงาม พาสต้าขอแนะนำ 10 ประเทศ กับสถานที่เที่ยวสุดโรแมนติก ไว้เติมความหวานกันได้ทั้งปี
ลอนดอน (LONDON) ประเทศอังกฤษ
"ลอนดอน" เป็นเมืองที่โรแมนติกในทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นช่วงดอกซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ หรือช่วงคริสต์มาสที่เต็มไปด้วยไฟประดับ
กิจกรรมเติมความหวาน
1.ล่องเรือแม่น้ำเทมส์ยามเย็น แนะนำ Thames Dinner Cruise สำหรับดินเนอร์ใต้แสงเทียน พร้อมดื่มด่ำวิวเมืองยามค่ำคืน หรือจะเลือก Sunset River Cruise สำหรับชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก
2.ชมวิวเมืองจาก London Eye จะเลือกนนั่งกระเช้าชมวิวแบบ Private Capsule เพื่อความเป็นส่วนตัว หรือจะเลือกจองช่วง Sunset หรือ Night Time ก็ โรแมนติก ไปอีกแบบนะครับ
3.ปิกนิกในสวนสวย Hyde Park หรือ Regent’s Park เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการปิกนิกใต้ร่มไม้ หรือจะเช่าจักรยานปั่นชมสวน เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศชิลๆ
4.เที่ยว Notting Hill เดินเล่นแถว Portobello Road ที่มีบ้านสีพาสเทลสุดน่ารัก แล้วแวะร้านหนังสือ Notting Hill Bookshop จากภาพยนตร์ดัง
⏳ฤดูกาลน่าเที่ยว
ฤดูใบไม้ผลิ(มี.ค.-พ.ค.) อุณประมาณ 15-20 องศา ช่วงนี้ดอกไม้จะบานสะพรั่ง
ฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.) เป็นช่วงที่ผู้คนจะออกมาช้อปปิ้ง เดินเล่น ปิกนิกตามสวนสาธารณะ
ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) ทุกพื้นที่จะเต็มไปด้วยสดใสของใบ้ไม้ที่มีสีนสันสดใส ประมาณ 8-14 องศา
ฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ.) แนะนำช่วงคริสต์มาส เพราะจะได้เห็นบรรยากาศการประดับไฟสุดอลังการ ช่วงนี้จะโรแมนติกสุดๆ
ปารีส(Paris) ประเทศฝรั่งเศส
"ปารีส"เมืองแห่งความรัก เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสุดโรแมนติก ที่คู่รัก และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกใฝ่ฝัน เพราะเป็นเมืองที่โรแมนติกในทุกฤดู
ไม่ว่าจะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่เห็นสีสันของใบไม้หลากสี หรือฤดูหนาวที่หอไอเฟลก็จะมีไฟประดับอย่างสวยงาม หรือฤดูใบไม้ผลิที่มีดอกซากุระบาน
กิจกรรมเติมความหวาน
1.เดินเล่นรอบ Champ de Mars หรือ Trocadéro Gardens แล้วปิกนิกชมวิวหอไอเฟล (Eiffel Tower) – ไอคอนแห่งความโรแมนติก
และอีกกิจกรรมที่ห้ามพลาดเลยคือ จองดินเนอร์ที่ร้าน Le Jules Verne บนหอไอเฟล หรือขึ้นไปชมวิวตอนกลางคืน
2.ล่องเรือแม่น้ำแซน (Seine River Cruise) ล่องเรือดินเนอร์สุดหรูบน Bateaux Parisiens หรือ Bateaux-Mouches มองเห็นวิว Notre Dame, Pont Alexandre III
และหอไอเฟลยามค่ำคืน ที่รับรองความสวยตระการตา
3.เดินเล่นบนสะพาน สะพาน Pont des Arts – สะพานแห่งความรัก แล้วเลือกร้านจิบไวน์ข้างแม่น้ำแซน พร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตก
⏳ฤดูกาลน่าเที่ยว
ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-มิ.ย.) เป็นช่วงที่ดอกไม้กำลังผลิบาน อุณหภูมิประมาณ 10 -18 องศา
ฤดูร้อน (ก.ค. – ก.ย.) อุณหภูมิประมาณ 20 – 30 องศา
ฤดูใบไม้ร่วง ( ต.ค– พ.ย.) ทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี อากาศดี แต่อาจมีฝนตกเล็กน้อย อุณหภูมิ 10 – 18 องศา
ฤดูหนาว( ธ.ค. – ก.พ.) ช่วงนี้อากาศหนาวมาก อุณหภูมิประมาณ -1 – 5 องศา
เวนิส (Venice)ประเทศอิตาลี
"เวนิส" เมืองสุดโรแมนติกแห่งอิตาลี ที่เต็มไปด้วยคลองสวยๆ สะพานโค้งสุดคลาสสิก และสถาปัตยกรรมสไตล์เรอแนซ็องส์ (Renaissance architecture)
กิจกรรมเติมความหวาน
1.ล่องเรือกอนโดลา (Gondola Ride) – สัญลักษณ์แห่งความโรแมนติก โดยนั่งเรือกอนโดลาผ่านคลองแคบๆ และสะพานสวยๆ
แนะนำเส้นทางผ่าน Grand Canal และ Bridge of Sighs แล้วเลือกช่วงพระอาทิตย์ตกนะครับเพื่อบรรยากาศสุดโรแมนติก
2.ชมจัตุรัสเซนต์มาร์ก (Piazza San Marco) จัตุรัสสวยใจกลางเมือง ที่รายล้อมด้วยสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิก
แล้วแวะชม มหาวิหารเซนต์มาร์ก (St. Mark’s Basilica) และ Campanile Tower และจิบกาแฟที่ Caffè Florian ร้านเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1720
3.เที่ยวเกาะบูราโน (Burano) – หมู่บ้านสีลูกกวาด บ้านสีสันสดใสริมคลอง เหมาะกับการเดินเล่น และถ่ายรูป
4.เดินเล่นที่ Fondamenta delle Zattere ทางเดินเลียบคลองแซนต์มาร์โค วิวสวยและเงียบสงบ แวะร้าน Gelateria Nico ลองชิมไอศกรีมเจลาโต้
⏳ฤดูกาลน่าเที่ยว
1.ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-มิ.ย.)อุณหภูมิประมาณ 5-17 องศา ช่วงนี้อาจเจอฝนตกบ้าง แต่อากาศเย็นสบาย ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป และดอกไม้สวยๆ เริ่มผลิบาน ให้ได้ชมกัน
2.ฤดูร้อน (ก.ค.-ส.ค.) อุณหภูมิประมาณ 17-28 องศา เป็นช่วงที่มีแดดแรงที่สุด
3.ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) อุณหภูมิประมาณ8-15 องศา เป็นช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี อากาศเริ่มเย็น ไม่หนาวเกินไป
4.ฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ) ช่วงนี้จะมีช่วงกลางคืนที่ยาวนานกว่ากลางวันนะครับ
"มัลดีฟส์" คือจุดหมายปลายทางในฝันของคู่รัก และนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศโรแมนติก ท่ามกลางทะเลสีฟ้าใส หาดทรายขาว และรีสอร์ทสุดหรูที่มาพร้อมกับวิวทะเลแบบส่วนตัว
กิจกรรมเติมความหวาน
1.ดินเนอร์ใต้แสงดาว (Romantic Beach Dinner) รีสอร์ทหลายแห่งมีบริการจัดดินเนอร์ส่วนตัวบนชายหาด
แนะนำ Ithaa Undersea Restaurant ร้านอาหารใต้ทะเลแห่งแรกของโลก หรือจะล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก พร้อมดื่มแชมเปญ (Sunset Cruise with Champagne)
2.นั่งเรือ Dhoni (เรือไม้แบบดั้งเดิมของมัลดีฟส์) จิบแชมเปญ พร้อมดูพระอาทิตย์ตกดิน
3.พายเรือแคนูใส (Transparent Kayaking) ในทะเล พร้อมชมปลาน้อยใหญ่ใต้เรือ
4.สปาคู่รักกลางทะเล (Couples Spa & Massage)
ที่มีให้เลือกในหลายรีสอร์ท
⏳ฤดูกาลน่าเที่ยว
ฤดูร้อน (พ.ย. – เม.ย.) เป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด ทะเลใส
ฤดูฝน (พ.ค. – ต.ค.) ราคาถูกลง แต่ยังเที่ยวได้
อัมสเตอร์ดัม(Amsterdam) ประเทศเนเธอร์แลนด์
"อัมสเตอร์ดัม" เมืองแห่งคลองสุดคลาสสิก และสะพานโค้งอันสวยงาม เหมาะกับการเดินเล่นชมวิว นั่งเรือ หรือดื่มด่ำกับวัฒนธรรมแบบยุโรป
กิจกรรมเติมความหวาน
1.ล่องเรือคลอง (Canal Cruise) – สัมผัสเสน่ห์เมืองเวนิสแห่งยุโรปเหนือ หรือจะเลือกล่องเรือชมเมืองตอนเย็นแบบ Private Boat หรือ Candlelight Dinner Cruise
และอย่าลืมแวะถ่ายรูปที่สะพาน Magere Brug (Skinny Bridge) ที่มีไฟประดับตอนกลางคืนด้วยนะครับ
2.เดินเล่นในย่านจอร์ดาน (Jordaan) – ย่านนี้ให้บรรยากาศที่อบอุ่นโรแมนติก เพราะมีถนนเล็กๆ ร้านกาแฟน่ารัก และร้านค้าบูติกที่ตกแต่งอย่างมีสไตล์
3.ชมดอกไม้ที่สวน Keukenhof (เฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ มี.ค. – พ.ค.) เดินเล่นท่ามกลางทุ่งดอกทิวลิปหลากสี ถ่ายรูปสวยๆ กับดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของเนเธอร์แลนด์
4.สะพานรัก Torensluis Bridge – จุดคล้องกุญแจแห่งอัมสเตอร์ดัม ให้เขียนชื่อของคุณ และคนรักลงบนกุญแจ และคล้องไว้เป็นสัญลักษณ์ของความรัก
⏳ ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับคู่รัก
ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค. – พ.ค.) ดอกไม้บาน อากาศเย็นสบาย
ฤดูร้อน (มิ.ย. – ส.ค.) มีเทศกาลต่างๆ บรรยากาศสดใส
ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย. – พ.ย.) คนน้อยลง อากาศเย็นกำลังดี
ฤดูหนาว (ธ.ค. – ก.พ.) บรรยากาศโรแมนติกกับแสงไฟช่วงคริสต์มาส
บาร์เซโลนา(Barcelona) ประเทศสเปน
"บาร์เซโลนา" เมืองแห่งสถาปัตยกรรมสุดอาร์ต ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จะเดินชมวิว กินอาหารสเปนอร่อยๆ หรือดูพระอาทิตย์ตกริมชายหาด ก็เป็นไอเดียเที่ยวบาร์เซโลนาที่สุดจะโรแมนติก
กิจกรรมเติมความหวาน
1.เดินเล่นในย่านโกธิก (Gothic Quarter – Barri Gòtic) ย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยถนนเล็กๆ อาคารสไตล์โกธิก และร้านคาเฟ่น่ารักๆ
แนะนำให้มาเดินตอนค่ำนะครับ เพราะบรรยากาศจะโรแมนติกมากๆ
2.ชมวิวเมืองที่บังเกอร์ เดล คาร์เมล (Bunkers del Carmel) เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดในบาร์เซโลนา เพราะจะมองเห็นวิวเมือง และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
เหมาะกับการมาปิกนิกและดูพระอาทิตย์ตก
3.ชมมหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย (Sagrada Família) โบสถ์สุดอลังการ สัญลักษณ์ของบาร์เซโลนา
ที่ออกแบบโดย อันตอนี เกาดี สถาปนิกชาวกาตาลา ภายในมีแสงสีสวยงาม เหมาะกับคู่รักที่ชอบงานศิลปะ
4.ดูโชว์ฟลาเมงโก้ (Flamenco Show)
5.นั่งเรือยอชต์ชมพระอาทิตย์ตก (Sunset Sailing Tour)จิบไวน์ และชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
⏳ฤดูกาลน่าเที่ยว
ฤดูใบไม้ผลิ (เม.ย. – มิ.ย.) อากาศเย็นสบาย ดอกไม้บาน
ฤดูร้อน (ก.ค. – ก.ย.) บรรยากาศสดใส เหมาะกับเที่ยวทะเล
ฤดูใบไม้ร่วง (ต.ค. – พ.ย.) คนน้อย อากาศเย็น กำลังโรแมนติก
ฤดูหนาว (ธ.ค. – ก.พ.) มีเทศกาลคริสต์มาสและแสงไฟสวยๆ
ซานโตรินี (Santorini) กรีซ
"ซานโตรินี" เป็นเกาะ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติกที่สุดในกรีซ ด้วยวิวทะเลสีฟ้า ตัดกับอาคารบ้านช่องสีขาว พร้อมหลังคาโดมสีน้ำเงิน
และพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในโลก ทำให้ ซานโตรินี เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของคู่รัก และนักท่องเที่ยวทั่วโลก อยากที่มาฮันนีมูนหรือเติมเต็มความหวานให้กับทริปสุดพิเศษ
และหากมาเป็นคู่ พาสต้าแนะนำว่า อย่าลืม ถ่ายภาพคู่รักในชุดกรีกโบราณด้วยนะครับ
กิจกรรมเติมความหวาน
1.ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด ที่ หมู่บ้านเอีย (Oia) – หมู่บ้านสีขาวบนหน้าผา มาพร้อมกับวิวทะเลอีเจียน(Aegean Sea)ที่สุดอลังการ
แนะนำให้ไปที่ Castle of Oia หรือริมระเบียงคาเฟ่ เพื่อชมพระอาทิตย์ตกนะครับ
2. เดินเล่น ถ่ายรูป ที่ หมู่บ้านฟิร่า (Fira) – เมืองหลวงของซานโตรินี ที่นี่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า และจุดชมวิวทะเลสวยๆ
เดินเพลินๆไปตามตรอกแคบๆ ที่มีอาคารสีขาวและบันไดหิน รับรองว่าชิล ไม่มีคำว่าเบื่อเลยครับ
3.ล่องเรือยอชต์ชมพระอาทิตย์ตก แนะนำทริป Sunset ล่องเรือรอบเกาะ พร้อมDinnerบนเรือครับ
4.เดินเล่นที่หมู่บ้านปิร์กอส (Pyrgos) – มุมสงบของซานโตรินี
ที่มีบ้านเก่าแก่สไตล์กรีก และวิวเมืองที่สวยงาม มีคนน้อย เหมาะสำหรับการมาถ่ายรูปแบบส่วนตัว
⏳ฤดูกาลน่าเที่ยว
ฤดูใบไม้ผลิ (เม.ย. – มิ.ย.) อากาศเย็นสบาย คนน้อย
ฤดูร้อน (ก.ค. – ก.ย.) บรรยากาศคึกคัก แต่อากาศค่อนข้างร้อน
ฤดูใบไม้ร่วง (ต.ค. – พ.ย.) บรรยากาศโรแมนติก คนน้อยลง
ฤดูหนาว (ธ.ค. – มี.ค.) อากาศเย็น แต่วิวสวยและสงบ
คัปปาโดเกีย (Cappadocia) ตุรกี
"คัปปาโดเกีย" เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางธรรมชาติ และประวัติศาสตร์
ที่นี่มีบ้านถ้ำเก่าแก่ หุบเขาหินรูปทรงแปลกตา และพลาดไม่ได้กับการขึ้นบอลลูนชมเพื่อพระอาทิตย์ขึ้น
พาสต้ารับรองว่าเพื่อนๆ จะได้เห็นวิวสวย ได้รูปสวยๆ และบรรยากาศที่โรแมนติกแน่นอนครับ
กิจกรรมเติมความหวาน
1.ขึ้นบอลลูน ชมพระอาทิตย์ขึ้น
2.พักในโรงแรมถ้ำ (Cave Hotel) สุดโรแมนติก บรรยากาศอบอุ่น เหมาะกับการนอนดูดาวจากระเบียง
3.เที่ยวหมู่บ้านเกอเรเม (Göreme) เป็นหมู่บ้านที่มีร้านอาหารน่ารักๆ คาเฟ่บรรยากาศดี และถนนหินที่เก่าแก่
⏳ฤดูกาลน่าเที่ยว
ฤดูใบไม้ผลิ (เม.ย. – มิ.ย.) อากาศเย็นสบาย บอลลูนขึ้นง่าย วิวสวย
ฤดูร้อน (ก.ค. – ส.ค.) อากาศร้อน แต่เหมาะกับการเดินเล่นกลางคืน
ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย. – พ.ย.) อากาศเย็นกำลังดี บรรยากาศโรแมนติก
ฤดูหนาว (ธ.ค. – มี.ค.) มีหิมะตก บรรยากาศเหมือนเทพนิยาย
"มิวนิก" เมืองหลวงของแคว้นบาวาเรีย เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ในทุกฤดูกาล ด้วยสถาปัตยกรรมสวยงาม
บรรยากาศเมืองเก่า และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ เหมาะกับการเดินเล่นชิลๆ กับคนรัก ครอบครัว และเพื่อน ๆ
นอกจากนี้ยังมีปราสาทสุดโรแมนติก และร้านอาหารบรรยากาศดีที่ช่วยเติมเต็มช่วงเวลาสุดพิเศษ
กิจกรรมเติมความหวาน
1.ชมความงามของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) – ปราสาทเจ้าหญิงดิสนีย์
ที่ตั้งอยู่ห่างจากมิวนิก 2 ชั่วโมง แล้วอย่าลืมแวะเก็บรูปสวยๆที่จุดชมวิว Marienbrücke ด้วยนะครับ เพราะเป็นมุมถ่ายรูปที่โรแมนติกที่สุด
2.ชมพระอาทิตย์ตกจาก Olympiaturm เป็นหอคอยสูง 291 เมตร
3.ชมปราสาทนิมเฟนเบิร์ก(Nymphenburg Palace) เป็นพระราชวังสไตล์ Baroque ที่งดงาม ที่มีสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ และมีหงส์ว่ายไปมาในสระน้ำ
4. เดินเล่นที่ Viktualienmarkt – ตลาดกลางแจ้งสุดโรแมนติก เป็นตลาดเก่าแก่ที่มีของอร่อยมากมาย เช่น ชีส ไส้กรอก และไวน์ท้องถิ่น
⏳ฤดูกาลน่าเที่ยว
ฤดูใบไม้ผลิ (เม.ย. – มิ.ย.) อากาศกำลังดี ดอกไม้บานสวย
ฤดูร้อน (ก.ค. – ก.ย.) เหมาะกับการเดินเล่นและล่องเรือ
ฤดูใบไม้ร่วง (ต.ค. – พ.ย.) บรรยากาศอบอุ่น เทศกาลเบียร์ Oktoberfest
ฤดูหนาว (ธ.ค. – ก.พ.) โรแมนติกสุดๆ กับตลาดคริสต์มาสและหิมะ
อินเตอร์ลาเคน (Interlaken) สวิตเซอร์แลนด์
"อินเตอร์ลาเคน" เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบทูน (Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) ที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาแอลป์อันสุดอลังการ
กิจกรรมเติมความหวาน
1.นั่งรถไฟไปยัง "ยุงเฟรายอค"Jungfraujoch – Top of Europe ชมวิวธารน้ำแข็งที่งดงาม
2.นั่งกระเช้าขึ้นไปชมวิวเมืองจาก Harder Kulm – จุดชมวิวสุดโรแมนติกของอินเตอร์ลาเคน พระอาทิตย์ตกที่นี่สวยมากนะครับ
3.ล่องเรือในทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz)
4.ขึ้นไปชมวิวบนยอดเขา Grindelwald
5.ทานอาหารบนยอดเขา Schilthorn แบบหมุนได้ 360°
6.เดินเล่นในเมืองเก่าทูน (Thun)ที่นี่มีบ้านไม้เก่าแก่ สะพานดอกไม้ วิวแม่น้ำสุดโรแมนติก มีร้านไวน์ และคาเฟ่น่ารักมากมายเลยครับ
⏳ฤดูกาลน่าเที่ยว
ฤดูใบไม้ผลิ (เม.ย. – มิ.ย.) อากาศเย็นสบาย ดอกไม้บานสวย
ฤดูร้อน (ก.ค. – ก.ย.) เหมาะกับการล่องเรือ เดินเขา และเล่นพาราไกลดิ้ง (Paragliders)
ฤดูใบไม้ร่วง (ต.ค. – พ.ย.) ใบไม้เปลี่ยนสี สวยโรแมนติก
ฤดูหนาว (ธ.ค. – ก.พ.) หิมะปกคลุม เล่นสกีและสัมผัสบรรยากาศคริสต์มาส